รายงานการตรวจสอบขยะอิเล็กทรอนิกส์โลกขององค์การสหประชาชาติเปิดเผยตัวเลขว่า ในปี พ.ศ. 2562 มีขยะอิเล็กทรอนิกส์หรือ e-waste มากถึง 53.6 ล้านตัน แต่มีเพียง 17.4% เท่านั้นที่ถูกนำกลับมารีไซเคิล 

ขยะอิเล็กทรอนิกส์มีหลากหลายประเภท อาทิ หน้าจอคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ ตู้เย็น เครื่องซักผ้าสายไฟ แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ โทรศัพท์มือถือ ที่ชาร์จแบตเตอรี่ แบตเตอรี่ เป็นต้น ซึ่งเอเชียเป็นผู้ทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ราว ๆ 25 ล้านตัน ซึ่งมากเป็นอันดับ 1 ของโลก ตามมาด้วยทวีปอเมริกาที่ 13 ล้านตัน ยุโรป 12 ล้านตัน แอฟริกา 2.9 ล้านตันและโอเชียเนีย 0.7 ล้านตัน 

ประเทศที่เป็นผู้นำการสร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์ก็คือ จีน10.1 ล้านตัน ตามมาด้วยสหรัฐ 6.9 ล้านตัน และอินเดีย 3.2 ล้านตัน แค่ 3 ประเทศนี้ก็สร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์รวมแล้ว 38% จากปริมาณขยะทั้งหมดของโลก ในปี พ.ศ. 2562 ซึ่งพลเมืองโลก 1 คนสร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์เฉลี่ยคนละ 7.3 กิโลกรัม 

รายงานยังชี้ให้เห็นว่า การที่จีนและอินเดียมีขยะอิเล็กทรอนิกส์มากเป็นอันดับ 1 และ 3 ของโลก เนื่องจากทั้งสองประเทศนี้เป็นประเทศกำลังพัฒนา พลเมืองเริ่มมีกำลังซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านมากขึ้น เช่น ตู้เย็นเครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ 

ขณะที่ขยะอิเล็กทรอนิกส์ล้นโลก แต่โรคโควิด-19 กลับยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลง เพราะผู้ที่ประกอบอาชีพเก็บขยะจำนวนหนึ่งไม่สามารถออกไปเก็บและคัดแยกขยะได้ ที่สำคัญประเทศกำลังพัฒนาและประเทศที่มีรายได้ต่ำทั่วโลกกลับไม่มีระบบจัดการขยะ หรือในบางประเทศก็ไม่มีการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์เลยด้วยซ้ำ