ว่ากันว่าหากมนุษย์ยังดำเนินกิจกรรมและธุรกิจอย่างที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้ อุณหภูมิโลกจะสูงขึ้น 6 องศาเซลเซียสเมื่อถึง พ.ศ. 2643 คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change: IPCC) ประเมินว่า มนุษย์ต้องหาทางกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้ปีละ 10 ล้านกิกะตันก่อนจะถึง พ.ศ. 2593 เพื่อรักษาอุณหภูมิโลกให้เพิ่มขึ้นต่ำกว่า 1.5 – 2 องศาเซลเซียส  

Credit: Carbfix
Credit: Carbfix

ในช่วงเวลาที่โลกพยายามเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานสะอาดร้อยเปอร์เซ็นต์ และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ จึงเกิดธุรกิจดักจับและรับกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นมา หนึ่งในนั้นคือ Carbfix สตาร์ทอัพจากไอซ์แลนด์ที่จะขอเสนอตัวเปลี่ยนก๊าซเรือนกระจกให้กลายเป็นหินภูเขาไฟ 

บริษัท Carbfix สร้าง ‘Coda Terminal’ ศูนย์รับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากบริษัทห้างร้านต่าง ๆ ที่จะส่งมาทางเรือพลังงานเมทานอล ซึ่งถูกออกแบบเป็นพิเศษสำหรับลำเลียงก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยเฉพาะมายังไอซ์แลนด์ จากนั้นจะใช้เทคโนโลยีซึ่งเลียนแบบกระบวนการเปลี่ยนแปลงรูปของธาตุคาร์บอนในธรรมชาติ โดยดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ที่จะถูกปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ แล้วนำมาผสมน้ำ เพียงแต่ Carbfix จะเร่งกระบวนการให้เร็วขึ้น ด้วยการฉีดกลับไปใต้ดินในชั้นหินบะซอลต์หรือหินภูเขาไฟที่ความลึก 1-2 กิโลเมตร ซึ่งจะแปรเปลี่ยนเป็นหินภายในไม่ถึง 2 ปี และจะคงอยู่ในสภาพนั้นต่อไปนับล้านปี 

Credit: Carbfix

โครงการดักจับและจัดเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กำลังเป็นกระแสมาแรงในยุโรป มีทั้งโครงการ Porthos ในเนเธอร์แลนด์ โครงการ Longship ในนอร์เวย์และโครงการ Acorn ในอังกฤษ แต่ Coda Terminal ในไอซ์แลนด์ต่างจากโครงการอื่นตรงที่การดำเนินงานบนพื้นดิน จึงมีต้นทุนน้อยกว่า 760 บาทต่อ 1 ตัน ซึ่งถูกกว่าโครงการอื่นที่ดำเนินการใต้ทะเลมาก อีกทั้งเมื่อ Coda Terminal เริ่มดำเนินงานในอีก 4 ปีข้างหน้าจะทำให้เกิดการจ้างงาน 600 อัตรา และหากธุรกิจไปได้ดี ไอซ์แลนด์อาจกลายเป็นศูนย์กลางจัดเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของโลกก็ได้

ทั้งนี้ เทคโนโลยีฉีดก๊าซให้เป็นหินของ Carbfix เข้าตา Bill Gates มหาเศรษฐีนักลงทุนด้านพลังงานสะอาดเข้าอย่างจัง จน Carbfix อาจได้เงินอัดฉีดจาก Gates Ventures บริษัทของเกตส์ที่ลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อต่อสู้กับวิกฤตโลกร้อนโดยเฉพาะ

Credit: Xprize

แม้แต่ Elon Musk ก็ยังทุ่มเทความสนใจและเงินทุนให้กับการจัดเก็บและกำจัดก๊าซคาร์บอนออกไซด์อย่างจริงจัง โดยจัดให้มีการแข่งขัน XPRIZE Carbon Removal หากใครสาธิตวิธีการกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้อย่างน้อย 1,000 ตันต่อปี และสามารถขยายผลกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับปีละหลายกิกะตันได้ในอนาคต จะได้รับเงินมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราวๆ 3,100 ล้านบาท) เป็นรางวัล