Grid Brief

  • เหตุผลที่ยังไม่ควรเร่งสร้างหนี้ก้อนใหญ่ก่อนวัย 30 ปี เพราะเป็นช่วงเรียนรู้ฝึกความชำนาญในงาน ถือเป็นการฝึกการบริหารการใช้เงินและการฝึกวินัยในการใช้จ่ายให้ลงตัวก่อน

คนส่วนใหญ่เมื่อก้าวสู่วัยทำงานมักมีความฝันและอยากสร้างความมั่นคงให้ตัวเอง ทั้งที่จริงแล้วในวัยนั้นยังไม่ควรรีบใจร้อนด่วนสร้างหนี้ มาดูเหตุผลกันว่า ทำไมเราจึงไม่ควรสร้างหนี้ก่อนอายุ 30 ปี

เป็นวัยเรียนรู้และ สร้างฐานความมั่นคง

การเริ่มทำงานเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญอีกช่วงของชีวิต จึงควรให้เวลาตัวเองในการเรียนรู้ชีวิตจริงนอกห้องเรียน ยังเป็นช่วงของการลองผิดลองถูกในการทำงาน ยิ่งใครที่ยังค้นหาความชอบหรือความถนัดของตัวเองไม่เจอ การคิดสร้างหนี้ก้อนใหญ่ตั้งแต่เริ่มทำงาน อาจส่งผลกระทบในการชำระหนี้ได้ หากคุณยังไม่มีการงานที่มั่นคงเพียงพอ ฉะนั้น ในวัยนี้คุณควรให้ความสำคัญและใส่ใจในการเพิ่มทักษะการเรียนรู้และหมั่นฝึกฝนการทำงานที่คุณสนใจหรือมีความสามารถให้เชี่ยวชาญ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมให้ตัวเองเติบโตและก้าวหน้าในหน้าที่การงาน บางคนอาจพร้อมถึงขั้นที่สร้างธุรกิจของตัวเองได้ เมื่อสถานภาพทางการงานและการเงินเริ่มมั่นคง การคิดเริ่มก่อหนี้ชิ้นใหญ่ให้ตัวเองและครอบครัวก็ยังไม่สายเกินไป

สำรวจภาระหนี้สินที่มีอยู่

ก่อนคิดสร้างหนี้ก้อนโต อย่าลืมสำรวจว่าตัวเองหรือครอบครัวมีหนี้สินใดที่ต้องดูแลจัดการหรือไม่ เช่น บางคนใช้เงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ในการศึกษาเล่าเรียน เมื่อเรียนจบและมีงานทำแล้ว ก็ต้องเข้าสู่การชำระหนี้ตามสัญญา ส่วนใครที่ครอบครัวเป็นผู้ส่งเสียให้เล่าเรียน นี่ก็ถือเป็นช่วงเวลาที่ควรตอบแทนพระคุณด้วยการแบ่งเบาภาระครอบครัว ซึ่งถือเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มเติมจากการรับผิดชอบดูแลตัวเอง สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการฝึกวินัยการใช้เงิน การรู้จักจัดสรรเงิน หากใครวางแผนและจัดการการเงินของตัวเองได้ดี ชำระหนี้ได้ตรงเวลา ก็ช่วยให้มั่นใจได้ว่า ถ้าต้องมีหนี้ก้อนใหญ่คุณจะจัดการและรับผิดชอบได้ตลอดรอดฝั่ง


อย่าใช้จ่ายเกินตัวเด็ดขาด

เป็นธรรมดาที่เมื่อสามารถหารายได้เป็นของตัวเองได้แล้ว ความต้องการอยากได้ อยากมี อยากเป็นก็จะเกิดขึ้น ในประเด็นนี้คุณต้องตั้งมีสติและคำนวณรายรับกับรายจ่ายในแต่ละเดือนของตัวเองให้ดี และต้องระวังการนำเงินในอนาคตมาใช้ล่วงหน้าด้วยการรูดบัตรเครดิตสนองความต้องการของตัวเอง จะต้องระลึกเสมอว่า คุณจะมีเงินพอในการชำระยอดบัตรเครดิตในแต่ละเดือนได้ทั้งหมด เพราะการจ่ายยอดแค่ขั้นต่ำ จะทำให้คุณเริ่มสร้างหนี้ที่ดอกเบี้ยจะทบเข้ามาจนกลายเป็นดินพอกหางหมูในที่สุด ฉะนั้น ก่อนมีหนี้ก้อนโตควรฝึกการห้ามใจตัวเองควบคู่ไปกับการรู้จักเก็บออมก่อน


ถ้าต้องเลือก…ซื้อบ้านก่อนซื้อรถ

เป็นคำถามที่มักเกิดขึ้นกับหลายคนในการตัดสินใจระหว่างการเลือกซื้อบ้านกับการซื้อรถ อาจเพราะค่านิยมในสังคมมักวัดความมั่นคงของผู้คนผ่านของสองสิ่งนี้ก็เป็นได้ ทั้งที่ในความจริงแล้ว ทั้งรถและบ้านยังไม่ถือเป็นสิ่งที่คนวัยหนุ่มสาวที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานจำเป็นต้องมี แต่ถ้าต้องเลือกระหว่างของสองสิ่งนี้แล้ว ขอแนะนำให้เลือกซื้อบ้านก่อน อย่างที่ทราบกันว่า บ้านเป็นสินทรัพย์ที่มีโอกาสทำราคาได้ในอนาคต อีกทั้งยังมีระยะเวลาในการผ่อนชำระที่ยาวกว่า ในขณะที่รถยนต์เป็นสินทรัพย์ที่มีค่าเสื่อมนับตั้งแต่วันที่ถอยรถออกจากโชว์รูมเลย ทว่า ก็ต้องพิจารณาถึงความจำเป็นของแต่ละบุคคลเป็นสำคัญด้วย เช่น หากคุณเป็นเซลส์ รถกลายเป็นสิ่งสำคัญในการประกอบอาชีพ หรือบางบริษัทที่มีเงินช่วยค่าเดินทางหรือสามารถเบิกค่าน้ำมันได้ เงินส่วนนี้อาจเป็นตัวช่วยในการผ่อนชำระค่างวดรถของคุณได้ กรณีนี้การซื้อรถอาจตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคุณมากกว่าการซื้อบ้าน


ฝันได้แต่ต้องอยู่บนความเป็นจริง

คนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบันมีแนวความคิดที่แตกต่างจากคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ที่เคยมองว่าการรับราชการหรือการทำงานบริษัทเป็นความมั่นคงในชีวิต เพราะหนุ่มสาวสมัยนี้ต้องการชีวิตอิสระ จึงอยากสร้างธุรกิจหรือทำสตาร์ทอัพของตัวเองกันมากกว่า หากมองในมุมดีก็ถือเป็นความกล้า เพราะไม่มีความสำเร็จใดเกิดขึ้นได้หากไม่มีการลงมือทำ เพียงแต่อยากให้ทำการบ้านให้ดี ด้วยการศึกษาธุรกิจที่สนใจให้ถี่ถ้วนรอบด้านสักหน่อย ถึงจุดแข็งและจุดอ่อน วิเคราะห์ตลาด คู่แข่งขัน ฯลฯ แม้การล้มในวัยนี้ย่อมลุกขึ้นได้ง่ายและเร็วกว่าวัยที่คุณอาจมีพันธะและภาระครอบครัวที่เป็นปัจจัยให้คิดตัดสินใจได้ไม่คล่องตัวเท่าก็ตาม แต่หากได้ใช้สติคิดไตร่ตรองให้ดีแล้ว ถึงจะล้มก็ไม่น่าจะล้มแรง และถ้าต้องเจ็บตัวก็คงไม่ทำให้คุณเข็ดจนไม่กล้าคิดทำอะไรอีก