‘Big Box’ ห้างร้านและซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ที่มีเอกลักษณ์คือการออกแบบโครงสร้างอาคารเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมเหมือนกล่องใบยักษ์ ซึ่งพื้นผิวเรียบโล่งของห้างได้กลายเป็นแหล่งผลิตพลังงานสะอาดชั้นเยี่ยม 

ในสหรัฐอเมริกามีห้างทรงกล่องกว่า 102,000 แห่ง อาทิ Walmart, Target, Home Depot, Macy’s, J.C. Penney และ Kohl’s ซึ่งได้ใช้พื้นที่หลังคาเรียบ ๆ ในการติดแผงโซลาร์เซลล์รวมกัน 4,500 ล้านตารางฟุต ไม่นับพื้นที่ลานจอดรถ หากว่าห้างร้านเหล่านี้พร้อมกันใจกันติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ไว้บนหลังคา ก็จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าได้ 30 เปอร์เซ็นต์ของแผงโซลาร์เซลล์ทั้งสหรัฐรวมกัน หรือเท่ากับพลังงานไฟฟ้า 62.3 กิกะวัตต์ที่ใช้ในครัวเรือนได้ 7 ล้านหลัง จะช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้ปีละ 57 ล้านเมตริกตัน หรือเทียบเท่ากับมลพิษจากรถยนต์ 12 ล้านคัน  

Credit: Walmart

พลังงานแสงอาทิตย์จากหลังคาห้างยังช่วยลดค่าไฟได้ 42 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าได้ช่วยลดค่าไฟของห้างได้ปีละ 8,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 267,000 ล้านบาท) โดย Costco ซึ่งติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่สาขาในแคลิฟอร์เนีย 2 แห่งรายงานว่าประหยัดค่าไฟได้วันละ 300 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 9,700 บาท) 

ส่วนห้าง Walmart ซึ่งเป็นห้างใหญ่ที่สุดในสหรัฐ และมีสาขา 10,500 แห่ง เรียกได้ว่าทุก ๆ 16 กิโลเมตร ชาวอเมริกันจะเจอห้างนี้ 1 สาขา หลังคาของ Walmart สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 5,844 เมกะวัตต์ เท่ากับไฟฟ้าที่ใช้ในครัวเรือน 660,000 หลัง โดยทาง Walmart ประกาศว่าจะเปลี่ยนไปใช้พลังงานสะอาด 100 เปอร์เซ็นต์ภายใน พ.ศ. 2578 และในปีนี้ Walmart ประกาศว่าจะซื้อพลังงานลม 500 เมกะวัตต์ ซึ่งเท่ากับไฟฟ้าที่ใช้ในครัวเรือน 240,000 หลังเพื่อใช้ในสาขาและศูนย์กระจายสินค้าต่าง ๆ 

Credit: Aldi

สำหรับออสเตรเลีย ห้างทรงกล่องอย่าง Aldi ก็หันมาใช้พลังงานสะอาดและนำมาเป็นจุดขาย ด้วยการขึ้นป้ายชัดเจนว่าห้างนี้ใช้พลังงานสะอาด 100 เปอร์เซ็นต์ และติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ 104,000 แผ่นใน 274 สาขาไปแล้วด้วย 

ขณะที่ IKEA ซึ่งหันไปผลิตแผงโซลาร์เซลล์ของตนเอง ในปีนี้ยังเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมให้กับผู้อยู่อาศัยในสวีเดน ซึ่งหากลูกค้าใช้ไฟไม่หมด ก็สามารถขายคืนให้กับ IKEA ได้อีกด้วย