กลางหุบเขาชายแดนตะวันตก วันที่สายลมหนาวเริ่มทักทาย เป็นอีกครั้งที่หนทางสายเดิมย้ำเตือนให้ใครสักคนได้รู้ว่า หน้าตาของ “โลกภายนอก” ระหว่างกันและกันล้วนแตกต่าง และคงไม่มีใครคิดจะนำมาเปรียบเทียบ

ลึกขึ้นไปผ่านทางภูสู่ชายแดนไทย-พม่าพิกัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แถบอำเภอสามร้อยยอด ใครสักคนจากปลายน้ำเตาะแตะโฟร์วีลคันเล็กไปตามทางฝุ่น ข้ามห้วยสายสวยหลายต่อหลายรอบ ก่อนจะมาพบว่า หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ขอบเขตสันเขาตรงหน้าน่าหลงใหล

ดาวเดือนเคลื่อนอยู่หลังม่านเมฆในคืนหนาว ลำห้วยหลากไหลพึมพำ ความเป็นจริงตรงหน้ารอการบอกเล่าเมื่อแสงแรกโผล่พ้นสันเขา อาบฉายลง ณ บ้านป่าหมาก หมู่บ้านของคนปกาเกอะญอตรงชายแดนแห่งนี้ชัดเจนด้วยความอบอุ่นและการเติบโต

จากริมห้วยตะลุยแพรกซ้าย ทางไต่เขาขึ้นลงเพื่อไปให้ถึงสิ่งที่เรียกกันหลวม ๆ ว่าจุดมุ่งหมาย หนทางจากบ้านแพรกตะลุยเปลี่ยนสัมผัสของผิวถนนไปจากทางแอสฟัลต์สู่ถนนดินแดง ธารน้ำสายแรกทอดผ่านสะท้อนความอุดมชุ่มของป่าเขาตะนาวศรีที่ไหลแรงแม้ในฤดูน้ำน้อย

ถนนดี ๆ สักเส้นคือสิ่งเชื่อมโยงให้คนของขุนเขาออกสู่ภายนอก หลังจากพวกเขาถูกม่านฝนและหล่มโคลนกักขังให้โดดเดี่ยวตัวเองกลางขุนเขามาตลอดฤดูกาล ข้ามธารที่สองด้วยเวลาและการขับรถแบบเชื่องช้าเช่นเดียวกัน เราก็ใช้เวลาไปกับทางภูเขาที่เหลืออีก 8 กิโลเมตร ไปสู่ป่าเขาและผู้คนที่อยู่กิน ณ พื้นที่ต้นน้ำปราณบุรี

เสียงจอแจของเด็ก ๆ เปลี่ยนบ้านกลางป่าให้ดูสดใส เรามาถึงบ้านป่าหมาก หมู่บ้านสุดท้ายชายแดนไทย-พม่า เหนือเขตเขาตะนาวศรีในเขตของอำเภอสามร้อยยอด ชีวิตของผู้คนปกาเกอะญอราว 600 คนของที่นี่ห่มคลุมอยู่ด้วยความเรียบง่าย ศรัทธาทางศาสนาทั้งพุทธ คริสต์ และความเชื่อดั้งเดิมเรื่องผีบรรพบุรุษอันเกี่ยวโยงกับป่าเขา ล้วนหล่อหลอมให้ชีวิตงดงามดำรงอยู่อย่างที่ควรจะเป็น

แนวหมากเสียดยอดสูงเด่นไปตามทางเดินเล็ก ๆ ที่เวียนเป็นวงกลมกลางหมู่บ้าน บางหลังยังคงเป็นกระท่อมไม้ไผ่สับฟากมุงตับใบค้อ ข้างในทึบทึม ทว่าที่ก้อนเส้าไม่เคยจางหายควันไฟ ขณะที่หลายหลังเปลี่ยนแปลงสู่ความมั่นคงแข็งแรงตามชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยการเพาะปลูกพืชผลอย่างกาแฟโรบัสตา หมาก ผลไม้หลากชนิด รวมไปถึงงานจักสานจากหวาย

จะว่าไป บ้านป่าหมากเพิ่งก่อร่างชุมชนมาไม่นาน จากการอพยพย้ายถิ่นทำกินของพี่น้องชาวปกาเกอะญอจากบ้านสวนทุเรียน แถบทางไปน้ำตกแพรกตะคร้อ ผู้คนอาศัยป่าเพื่ออยู่กินและผูกพันมาเนิ่นนาน หากแต่ชีวิตกลางป่าเขาล้วนถูกตัดขาดจากโลกภายนอกและแตกต่างกันอย่างสุดขั้วลิบลับ

ราวปี พ.ศ. 2547 ยามที่สายพระเนตรของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทอดผ่านจากมุมมองเหนือป่าเขาตะนาวศรี เมื่อเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งนำเสด็จหย่อนลงจอด คล้ายชีวิตกลางแดนไพรกลับเย็นชื่นด้วยพระกรุณาธิคุณ

นับจากนั้นงานพัฒนาชุมชนจากหน่วยงานต่าง ๆ ก็ทยอยเกิดขึ้น ปรับเปลี่ยนภาพหมู่บ้านห่างไกลของบ้านป่าหมากให้ก้าวเดินไปอย่างมีจุดมุ่งหมาย พืชพรรณต่าง ๆ ล้วนได้รับการส่งเสริม กาแฟโรบัสตารวมถึงพืชไร่ต่าง ๆ ได้หยั่งราก และมีนักวิชาการขึ้นมาแนะนำ รวมไปถึงงานฝีมืออันตกทอดอยู่ในสายเลือดของคนที่นี่ ทั้งผ้าทอผืนสวยมากมายลวดลาย ทักษะการสานหวายเป็นตะกร้า เปล ทั้งหมดหลอมรวมเป็นทางเลือกอีกหนึ่งเส้นที่เคียงคู่ไปกับการเพาะปลูก

จากลานเฮลิคอปเตอร์อันเป็นสนามกว้างหน้าโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านป่าหมากที่มีร้าน Coffee School ร้านกาแฟเรียบง่ายที่ชาวบ้านจัดการกันเองในโรงเรียน เราเดินลัดเลาะห้วยป่าหมาก บ้านบางหลังมีหญิงชราและลูกหลานผลัดกันเหยียบยืนบนคานกระเดื่องของครกไม้ตำข้าวเก่าคร่ำ ลานดินกว้างหน้าบ้านคือแผงตากผลสุกของกาแฟ ไล่ลึกไปตามสันเนินคือสวนกาแฟติดผลสีแดงเข้ม สลับกับสวนหมาก หรือ “ตาหมื่อโอ๊ะ” ในภาษาของพวกเขา ยังไม่นับทุเรียนที่ต่างรอความหวังในการแปรรูป ซึ่งคนบ้านนี้ต่างคาดเดาว่านี่คืออาชีพที่ยั่งยืน

เราขออนุญาตหลวงพ่อตั้งแคมป์ตรงริมห้วยตะลุยแพรกซ้าย หน้าวัดป่าข้างขาว เด็ก ๆ ตามมาเล่นน้ำและช่วยหาผักกูดรวมถึงผักสวนครัว  มื้อค่ำแสนพิเศษถูกปรุงขึ้นง่าย ๆ ผ่านความเงียบงันหนาวเย็น เดือนดาวยังสะท้อนตัวเองลงบนธารน้ำ เสียงสุดท้ายที่ได้ยินหลังบทสนทนาคือเสียงฟืนไผ่แตกปะทุ หลังจากนั้นค่ำคืนแสนสงบของบ้านป่าหมากก็หลอมรวมทั้งพี่น้องปกาเกอะญอ ศรัทธาทางศาสนาและความเป็นอยู่ รวมถึงผู้มาเยือนจากพื้นล่างให้หลับใหลไปกับริมลำธาร อันเป็นหนึ่งในต้นน้ำของแม่น้ำปราณบุรี

นาฬิกาชีวิตของบ้านในหุบเขาคือดวงอาทิตย์และการงานนานา ตั้งแต่เช้าที่สายหมอกยังเรี่ยผืนน้ำ สะพานสลิงสีเหลืองสดที่เชื่อมฝั่งวัดป่าช้างขาวและฝั่งหมู่บ้านของป่าหมากชัดเจนอยู่ด้วยภาพแห่งศรัทธาของผู้คนและพระพุทธศาสนา

พระสงฆ์สองสามรูปยังคงเดินข้ามแนวสะพานไปรับบาตรพี่น้องปกาเกอะญอในหมู่บ้าน ภาพสงบงามกลางแดดอุ่นที่โอบล้อมด้วยป่าเขากว้างไกล ตรงลาดผาหน้าวัดป่าช้างขาว เรือนไม้เล่นระดับสร้างขึ้นตรงจุดที่มองเห็นวิวหมู่บ้านได้สวยที่สุด มองไปทางไหนก็เต็มไปด้วยมุมสวยของคนรักการถ่ายรูป ลำห้วยสะท้อนแดดเป็นประกายวิบวับ ป่าเขาเขียวครึ้มตระหง่านเป็นฉากหลัง เรือนไม้ตรงนี้ก็เช่นกัน ได้กลายเป็นร้านกาแฟที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจกันทั้งพระสงฆ์จากวัดเล็ก ๆ ที่เคียงข้างชุมชน ไล่เลยไปถึงเหล่าชาวบ้านผู้ปลูกกาแฟ และการคิดค้นพัฒนาจากกลุ่มผู้นำชุมชนในการเลือกจะดูแลบ้านกลางขุนเขาของพวกเขาด้วยตัวเอง

สวนกาแฟโรบัสตาที่แทรกซ่อนอยู่ในขุนเขาบ้านป่าหมากนั้น บางส่วนถูกร่นปลายทางให้เหลือแต่ที่วัดป่าช้างขาว วิสาหกิจชุมชนที่จัดตั้งโดยกลุ่มชาวบ้าน โดยมีทางวัดช่วยสนับสนุนในหลาย ๆ เรื่อง ปรากฏเป็นภาพชัดเจนนามโรบัสต้าป่าช้างขาว ร้านกาแฟที่ขับเคลื่อนไปด้วยการพัฒนาชุมชนโดยตัวพวกเขาเอง

ทางวัดรับซื้อเชอร์รี่กาแฟสดจากชาวบ้านในราคาที่สูงกว่าตลาดเสียอีก แล้วยังให้ชาวบ้านได้เข้ามาร่วมบริหารและทำงานในด้านต่าง ๆ ภาพตรงหน้าที่เราเห็นจึงเต็มไปด้วยการงาน ทั้งการคั่วมือ จัดส่งตามออเดอร์ หรือเปิดขายในร้านกาแฟในมุมสวย ไล่เลยไปถึงเรื่องการจัดการเรื่องการท่องเที่ยวของคนชอบมาแคมป์

เราจากลาบ้านไกลกลางตะนาวศรีกันอย่างยากเย็น เด็ก ๆ เวียนแวะมาหา มุมกาแฟที่มองวิวได้ทั้งวันก็เป็นเลิศ เปลหวายของพี่สาวชาวปกาเกอะญอนั้นงดงามละเอียดลอออย่างน่าทึ่ง ชวนให้นั่งมองการจักสานอันมีชีวิตชีวา

กลางขุนเขาและทางคดโค้งไม่อาจคาดเดาถึงอะไรก็ตามแต่ที่รอคอยอยู่เบื้องหน้า หลายชีวิตวางแนบตัวเองอยู่กลางความยิ่งใหญ่ของผืนป่า หากภูเขาคือการเปิดช่องว่างให้ใครหลายคนรู้จักเติมเต็มสิ่งที่เรียกว่าชีวิต หนทางของคนบ้านป่าหมากก็อาจไม่ตายตัว ไร้ตัวเลขมากำกับ และอยู่ที่ว่าใครจะแต่งเติมลงไปด้วยความคิดความเชื่อแบบใด

มากไปกว่านั้น คุณค่าในคำตอบของแต่ละคนล้วนแปลกแยกแตกต่าง ทว่าก็เป็นตัวของตัวเองอย่างถึงที่สุด

How to get There

จากทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม เส้นบายพาสหัวหิน) แยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 3218 มุ่งหน้าสู่น้ำตกป่าละอู เมื่อถึงบ้านหนองพลับ แยกซ้ายผ่านบ้านห้วยไทรงาม บ้านคอกช้างใหญ่ บ้านบึงนคร หลังผ่านบ้านห้วยผึ้ง บ้านแพรกตะคร้อ แยกซ้ายผ่านบ้านท่าไม้ลาย ไปถึงบ้านแพรกตะลุย ถนนลาดยางปกติ จากนั้นจะเป็นเส้นทางดินลูกรังลัดเลาะผ่านสันเขาอีกราว 8 กิโลเมตร สู่บ้านป่าหมาก หมู่บ้านสวยสงบแถบชายแดนไทย-พม่า

Eat & Stay

ชมจันทร์ในป่าหมาก ฟาร์มสเตย์ ริมห้วยตะลุยแพรกซ้าย บ้านแพรกตะลุย บริการพื้นที่กางเต็นท์ กาแฟสด อาหารตามสั่งง่าย ๆ รวมทั้งทริปเดินเล่นดูสวนผลไม้ ไปเที่ยวบ้านป่าหมาก รวมถึงนั่งรถออฟโรดไปเที่ยวน้ำตกแพรกตะคร้อ โทร.08-1426-7812 เฟซบุ๊ก : นายสุวรรณชัย พานิช

หมู่บ้านป่าหมาก บริการลานกางเต็นท์ในพื้นที่ริมห้วยตะลุยแพรกซ้าย สงบ สวยงาม โทร.05-2323 -5537 และ 08-0634-8199 เฟซบุ๊ก : ท่องเที่ยวชุมชนบ้านป่าหมาก ลานกางเต็นท์

โรบัสต้าป่าช้างขาว ร้านกาแฟและร้านอาหารในบรรยากาศงดงามหน้าวัดป่าช้างขาว บริการกาแฟสด เครื่องดื่มร้อนเย็น เปิดขายสินค้าที่ระลึกทั้งผลิตภัณฑ์ผ้าทอ เมล็ดกาแฟสด ชาดอกกาแฟ รวมทั้งมีอาหารตามสั่งให้บริการ โทร.08-6093-1167 เฟซบุ๊ก : โรบัสต้าป่าช้างขาว บ้านป่าหมาก

เรื่องโดย Ramchalay
ภาพถ่ายโดย ศรุต ทัพพเศวต ภาพ