ออสเตรเลียเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ต้องประสบปัญหาจำนวนป่าไม้ที่ลดลง บริษัทสตาร์ตอัพ AirSeed Technology จึงพัฒนานวัตกรรมด้วยการนำระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาทำงานกับโดรน เพื่อใช้หว่านเมล็ดพันธุ์ที่ปลูกต้นไม้ได้วันละ 40,000 ต้น เร็วกว่าการปลูกแบบขุดหลุมแล้วหย่อนต้นกล้าไปทีละต้นถึง 25 เท่า และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 80 เปอร์เซ็นต์

โดรนอ็อกโตค็อปเตอร์ (Octocopter) ที่ใช้หว่านเมล็ดพันธุ์เพื่อปลูกป่านี้ทำงานด้วยระบบอัตโนมัติ โดยบินขึ้นฟ้าเพื่อโรยเมล็ดพันธุ์พืชลงมา ซึ่งใช้เทคโนโลยีไบโอเทคสร้าง ‘ฝัก’ ที่ทำจากชีวมวลมาทำหน้าที่ปกป้องเมล็ดพันธุ์จากเหล่านก

แมลง สัตว์ฟันแทะต่าง ๆ เช่น หนู กระรอก ไปจนถึงสัตว์ป่านานาชนิด ซึ่งฝักไบโอเทคนี้ก็ยังอุดมไปด้วยสารอาหาร แร่ธาตุและแม้กระทั่งโปรไบโอติกส์ หรือเชื้อจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ จึงเป็นเหมือนพี่เลี้ยงที่ช่วยให้เมื่อเมล็ดพันธุ์หล่นลงบน

พื้นดินแล้วสามารถเจริญงอกงามได้เร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ โดรนปลูกป่ายังบันทึกตำแหน่งเมล็ดพันธุ์ที่หว่านไปเพื่อใช้ติดตามการเจริญเติบโตได้อีกด้วย

ปัจจุบันโดรนปลูกป่าได้ปลูกต้นไม้ไปแล้ว 50,000 ต้น และบริษัท AirSeed ตั้งเป้าจะปลูกให้ได้ 100 ล้านต้นภายในปี 2567 เพื่อทดแทนป่าไม้ที่ถูกทำลายไป ตามข้อมูลของ The United Nations Environment Programme ระบุว่า ในแต่ละปีโลกได้สูญเสียพื้นที่ป่า 70,000 ตารางกิโลเมตร หรือ 43,750,000 ไร่ เทียบได้กับขนาดของประเทศโปรตุเกส