Grid Brief

  • การปรับตัวของคนทำงานกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทำได้โดยการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น
  • หลักการสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่นจากหนังสือ Winning With People ของจอห์น ซี. แม็กซ์เวลล์ มี 5 ขั้นตอน ได้แก่ การฝึกตนให้เป็นคนอยากเรียนรู้ การให้คุณค่ากับผู้คน การพัฒนาความสัมพันธ์กับคนที่ช่วยให้เราเติบโต การหาความแตกต่างและจุดแข็งของผู้อื่น และฝึกการตั้งคำถาม
  • ทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่นในองค์กร ประกอบด้วย ความสามารถในการสื่อสาร การทำงานแบบสอดประสานและร่วมมือกัน และการทำงานเป็นทีมที่มีการบริหารจัดการในการทำงาน

ปัจจุบันโลกเราขับเคลื่อนอย่างรวดเร็วและซับซ้อนขึ้นอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะโลกการทำงาน ทำให้มนุษย์ออฟฟิศในยุคนี้ จึงต้องปรับตัวให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น 

จอห์น ซี. แม็กซ์เวลล์ (John C Maxwell) นักเขียนผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นผู้นำที่มีผลงานมากกว่า 80 เล่ม อีกทั้งยังเป็นนักพูด และที่ปรึกษาทางธุรกิจให้บริษัทขนาดใหญ่ ได้แนะนำหลักการสร้างสัมพันธ์กับผู้อื่นที่เรียกว่า “The Learning Principle” จากหนังสือของเขาที่ชื่อ ‘Winning With People’ ว่า มีวิธีการง่าย ๆ 5 ขั้นตอน ดังนี้

1.ฝึกตนให้เป็นคนอยากเรียนรู้ – Steve Jobs เคยกล่าวไว้ว่า “จงหิวกระหายและทำตัวโง่เขลาอยู่เสมอ” หากเรากระหายที่จะเรียนรู้อยู่เสมอ เมื่อพบเจอผู้คนก็จะอยากสนทนา เพื่อพูดคุย สอบถาม และเรียนรู้จากประสบการณ์ของอีกฝ่าย

2.ให้คุณค่ากับผู้คน – คนเราต่างมีทักษะความสามารถและความชำนาญของตัวเอง เมื่อเราให้คุณค่ากับคน จะทำให้เกิดความศรัทธาชื่นชม และอยากเรียนรู้จากเขา ยกตัวอย่างเช่น หากหัวหน้าคุณเป็นคนมุ่งมั่น จริงจัง และมีระเบียบวินัยในการทำงาน แต่คุณกลับมองว่า เป็นความเคร่งครัดหรือเข้มงวดจนเกินไป  คุณคงไม่ได้เรียนรู้สิ่งดี ๆ จากหัวหน้า นั่นเพราะคุณไม่ได้ให้คุณค่าหรือศรัทธากับผู้อื่น 

3.พัฒนาความสัมพันธ์กับคนที่ช่วยให้เราเติบโต – เริ่มจากมองหาบุคคลที่ทำให้คุณได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะตัวเอง หรือเติบโตในหน้าที่การงาน จากนั้นสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลนั้นไว้ เหมือนคำโบราณที่ว่า “คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล”

4.หาความแตกต่างและจุดแข็งของผู้อื่น – จำไว้ว่า ผู้ที่แตกต่างจากเรา จะช่วยเติมเต็มสิ่งที่เราไม่มี อย่าตั้งแง่หรือรังเกียจในความแตกต่างนั้น จงน้อมรับด้วยความเต็มใจ ด้วยการทำความเข้าใจว่า เราทุกคนต่างมีจุดแข็งและจุดอ่อน แต่ถ้ามองและพิจารณาให้ดี โดยเฉพาะภายใต้จุดอ่อนเหล่านั้น มักมีจุดแข็งบางอย่างซ่อนอยู่ เช่น การเป็นคนขี้โมโหใจร้อน มักมีจุดแข็งคือเป็นคนมุ่งมั่น ไม่ยอมแพ้ หรือคนจู้จี้จุกจิก มักเป็นคนละเอียด รอบคอบและใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง เป็นต้น ฉะนั้น จงจำไว้ว่าเหรียญมีสองด้านเสมอ 

5.ฝึกตั้งคำถาม – การเรียนรู้เริ่มต้นจากการฟัง แล้วตามด้วยการตั้งคำถาม คำถามที่ดีจะนำมาซึ่งคำตอบที่ดี จงเรียนรู้และฝึกฝนการตั้งคำถามให้เก่งขึ้น หากสังเกตคนที่ประสบความสำเร็จ ส่วนมากมักเป็นผู้ที่ตั้งคำถามที่ดีเสมอ

นอกจากนี้แล้ว การทำงานร่วมกับผู้อื่นในองค์กร ยังต้องอาศัยการหมั่นพัฒนาทักษะปรับเสริมเพิ่มเติมความสามารถเฉพาะตัวให้คล่องแคล่วชำนาญและทันกับยุคสมัยมากขึ้นด้วย ได้แก่

  • Communication : ความสามารถในการสื่อสาร โดยเฉพาะการสื่อสารเรื่องที่ยากและคลุมเครือให้เข้าใจง่ายขึ้น ซึ่งถือเป็นทักษะที่จำเป็นมาก เพราะสังคมปัจจุบันมีความเปลี่ยนแปลงที่ซับซ้อนมากขึ้น การอธิบายให้ผู้อื่นเข้าใจได้ถูกต้องและชัดเจน ถือเป็นความท้าทายที่ต้องหมั่นฝึกฝน
  • Collaboration : การทำงานแบบสอดประสานและร่วมมือกัน ถือเป็นอีกทักษะการทำงานที่จำเป็นในปัจจุบัน หมดสมัยสำหรับการทำงานแบบเดิมที่ลุยเดี่ยว เก่งคนเดียวแล้ว เพราะโลกยุคนี้การร่วมมือกันจะทำให้เติบโตอย่างมั่นคงและแข็งแรง
  • Conductor : การทำงานเป็นทีมจะราบรื่นและประสบความสำเร็จอย่างที่วางเป้าหมายไว้ได้ ต้องอาศัยทักษะความสามารถในการบริหารจัดการให้การทำงานในส่วนต่าง ๆ ดำเนินไปอย่างไหลลื่น และไม่สะดุดกับปัญหาหรืออุปสรรคต่าง ๆ ด้วยเหตุนี้  ผู้นำหรือหัวหน้าจึงต้องทำหน้าที่คล้ายเป็นวาทยากรที่อำนวยการแสดงของนักดนตรีวงออร์เคสตราที่ต่างคนต่างเชี่ยวชาญในเครื่องดนตรีที่แตกต่างกัน ให้บรรเลงได้สอดรับและสอดประสานกันเป็นหนึ่งเดียวกันให้ได้

สิ่งเหล่านี้เป็นความท้าทายทั้งขององค์กรและคนทำงาน แต่หากสามารถปรับตัวและพัฒนาทักษะเพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ นอกจากองค์กรจะเติบโตอย่างมั่นคงแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อตัวเองให้มีชีวิตการทำงานที่ดีและมีความสุขอีกด้วย