คู่มือฉบับย่อสำหรับการเปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำแบบสบายกระเป๋ามาแล้วจ้า ร้อนขนาดนี้เปิดแอร์เท่าไหร่ก็ดูเหมือนจะเย็นไม่ถึงใจสักที แถมยิ่งปรับอุณหภูมิให้เย็นขึ้นก็ยิ่งเปลืองค่าไฟอีก แต่หากใช้พัดลมเป็นตัวช่วยและการตั้งค่าแอร์ตามข้อมูลที่เรานำมาฝากนี้ จะช่วยให้หน้าร้อนของคุณเย็นสบายแบบไม่แคร์ค่าไฟท้ายเดือน อ่านแล้วนำไปใช้เลย

3 ปัจจัยให้เราเย็นเจี๊ยบถึงใจ

ก่อนจะเข้าเรื่องบทบาทของพัดลม มาทำความเข้าใจ 3 ปัจจัยที่ทำให้เรารู้สึกเย็นกัน ‘อุณหภูมิ’ เป็นปัจจัยสำคัญอย่างไม่ต้องสงสัย สองคือ ‘ความชื้นสัมพัทธ์’ หรืออัตราส่วนของปริมาณไอน้ำที่มีอยู่ในอากาศต่อไอน้ำอิ่มตัว ซึ่งยิ่งมากยิ่งทำให้รู้สึกไม่สบายตัว แต่ถ้ามีน้อย เหงื่อบนตัวเราจะระเหยมากขึ้น ส่งผลให้อุณหภูมิร่างกายลดลง สุดท้ายคือ ‘ความเร็วลม’ ที่ยิ่งแรง เราก็ยิ่งรู้สึกเย็นนั่นเอง

Credit: Pressfoto

พัดลมจ๋า ช่วยลดค่าไฟหน่อยจ้ะ

อย่ามองข้ามพัดลมเชียว เพราะพัดลมช่วยผ่อนการทำงานของแอร์ได้มากกว่าที่คิด ด้วยฟังก์ชันของพัดลมจะช่วยพัดความเย็นให้กระจายทั่วถึง แอร์ก็จะทำงานหนักน้อยลง และตามปัจจัยความเย็นข้อที่ 3 คือลมจากพัดลมช่วยลดอุณหภูมิร่างกายเราได้โดยตรง

ก่อนเปิดพัดลมให้ส่ายช่วยกระจายความเย็น มาดู 4 เทคนิคการวางพัดลมให้ได้ผลที่สุดกันก่อน

  1. วางใกล้แอร์โดยให้หน้าพัดลมหันไปทางเดียวกับลมแอร์ ด้วยวิธีนี้ความเย็นจากแอร์จะหมุนเวียนได้ดีขึ้นจากด้านบนลงด้านล่าง
  2. สำหรับพัดลมตั้งพื้นที่ไม่สูงมาก ควรปรับระดับให้สูงขึ้นมาเพื่อให้พัดความเย็นได้ทั่วถึง
  3. ดันหน้าพัดลมเงยขึ้น อากาศจะตีกลับจากเพดานลงมาแล้วไหลเวียนได้ดีขึ้น
  4. วางระหว่าง 2 ห้องซึ่งเชื่อมกัน จะช่วยให้แอร์ทำงานหนักน้อยลง

เมื่อพัดลมเข้ามามีบทบาทในการทำความเย็น เราเพิ่มอุณหภูมิของแอร์เป็น 27-29 องศาเซลเซียสได้ โดยที่พัดลมจะช่วยให้เรารู้สึกคล้ายกับการเปิดแอร์ที่ราวอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส เพียงแค่นี้พัดลมแอร์จะทำงานน้อยกว่าเดิมมาก นั่นหมายความว่ากินไฟน้อยลงด้วย แถมพัดลมกินไฟน้อยกว่าแอร์ถึง 10 เท่า ดังนั้นการเปิดพัดลมพร้อมแอร์ประหยัดกว่าเปิดแอร์อย่างเดียวแน่นอน

ทั้งนี้ โหมดของแอร์ก็มีผล และแต่ละโหมดขึ้นกับอากาศภายในห้องกับความต้องการของผู้ใช้งาน และนี่คือ 4 โหมดหลักที่พบในแอร์ทั่วไป

Credit: Freepik

ตั้งค่าแอร์โหมดไหนดี

  1. Auto อัตโนมัติตามชื่อ เซ็นเซอร์ของแอร์จะปรับระดับอุณหภูมิกับลมแอร์ที่เหมาะสมตลอดการเปิดใช้งาน โดยโหมดนี้กินไฟระดับกลาง
  2. Cool เย็นฉ่ำชื่นใจ แอร์จะทำอุณหภูมิให้ได้ตามที่ผู้ใช้งานตั้งค่าไว้ โดยไม่ปรับเป็นอุณหภูมิอื่นตลอดการเปิดการใช้งาน และแน่นอนว่าโหมดนี้ค่อนข้างกินไฟเลย
  3. Dry ตามหลักการแล้ว หน้าที่หนึ่งของแอร์คือดูดความชื้น และโหมดนี้จะดูดความชื้นออกจากห้อง โดยไม่ทำความเย็น จากนั้นเมื่อเปิดโหมดทำความเย็นอีกครั้งจะช่วยให้แอร์ทำงานหนักน้อยลง โหมดนี้กินไฟไม่มากด้วย
  4. Fan โหมดนี้มีแต่ลม แถมกินไฟน้อยมาก หน้าที่ของมันคือช่วยลดความชื้นสะสมในเครื่อง ช่วยคงสภาพคอยล์เย็นให้อายุยืน และการเปิดแอร์ครั้งต่อไปจะเย็นไวขึ้นด้วย

รูปโดย: Freepik