แนวคิดการสร้างเมืองใหม่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลก เพราะเมืองที่สร้างมานาน ๆ มักมีปัญหาที่แก้ได้ยาก การปรับปรุงในบางเรื่องก็ไม่เพียงพอ การสร้างเมืองขึ้นมาใหม่โดยมีการออกแบบ วางผังเมือง และบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

‘Telosa’ เป็นหนึ่งในเมืองใหม่ที่ประกาศตัวเมื่อเดือนกันยายน 2564 เสนอโดย Marc Lore มหาเศรษฐีชาวอเมริกันและเป็นผู้ก่อตั้งเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซหลายแห่ง จนได้รับการขนานนามให้เป็นผู้ประกอบการที่มีทักษะเทคโนโลยีระดับแถวหน้า

Marc Lore ก้าวลงจากตําแหน่งประธานบริหารฝ่ายอีคอมเมิร์ซที่ประสบความสําเร็จของ Walmart เมื่อต้นปี 2564 เพราะต้องการทุ่มเทให้กับการสร้างเมืองแห่งอนาคต และหวังจะสร้างความมั่งคั่งอย่างยุติธรรม ไม่ใช่ทุนนิยมแบบเดิมที่สร้างช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนอย่างมหาศาล

เว็บไซต์ของ Telosa อธิบายว่า ให้นึกภาพเมืองที่มีชีวิตชีวา ความหลากหลาย และวัฒนธรรมของมหานครนิวยอร์กผสมผสานกับประสิทธิภาพความปลอดภัยและนวัตกรรมของโตเกียว รวมถึงความยั่งยืน ธรรมาภิบาล และสวัสดิการสังคมของสวีเดนทั้งหมดนี้จะอยู่ในเมืองใหม่

Telosa เมืองแห่งความหวัง

Telosa ตั้งชื่อตามคําภาษากรีก telos ซึ่งหมายถึง ‘เป้าหมายชั้นสูง’ เมืองในอุดมคติแห่งใหม่นี้จะผนวกเรื่องความเท่าเทียมความยั่งยืน และการเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) เข้าด้วยกัน เป็นการสร้างเมืองใหม่ขึ้นมาจากศูนย์ โดยตั้งต้นจาก ‘ผู้คน’ เป็นศูนย์กลางในการพัฒนา ซึ่งแตกต่างจากเมืองที่สร้างมานานแล้ว ภารกิจสร้างเมือง Telosa คาดว่าน่าจะใช้งบราว 4 แสนล้านดอลลาร์ขึ้นไป จากนักลงทุน ผู้ใจบุญ รัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น รวมถึงเงินส่วนตัวของ Marc Lore

เมืองนี้น่าจะใช้ระยะเวลาพัฒนา 40 ปี ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 150,000 เอเคอร์ (379,000 ไร่) และมีบ้านเรือนรองรับประชากรกว่า 5 ล้านคน ในระยะแรกของการพัฒนา Telosa จะรองรับผู้อยู่อาศัยได้ราว 50,000 คนต่อพื้นที่ (3,794 ไร่) ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2573

เมืองนี้จะเน้นใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พึ่งพาพลังงานหมุนเวียน และลดการสร้างขยะ ภายใต้ระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ซึ่งเป็นระบบเศรษฐกิจที่ทําให้ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุดในทุกกระบวนการ เช่น รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ และตึกระฟ้าประหยัดพลังงาน

นอกจากนี้ การใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารที่ทันสมัยจะช่วยให้บริการแบบไร้สายมีความปลอดภัยและราคาจับต้องได้ เช่น บริการแบบเรียลไทม์ ยานพาหนะครอบคลุมทั่วเมือง และพลเมืองทุกคนใน Telosa จะมีแอปพลิเคชัน แจ้งข้อมูลต่าง ๆ ภายในเมือง เทคโนโลยีขั้นสูงอย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI) การพิมพ์ 3 มิติ จอภาพและการตรวจจับขั้นสูง จะถูกนําไปใช้ในการบริหารจัดการเมืองในด้านต่าง ๆ

ถอดแนวคิดเมืองใหม่

Marc Lore คิดค้นระบบทุนนิยมเวอร์ชั่นปฏิรูปใหม่ที่จะใช้กับ Telosa โดยเน้น ‘ความเท่าเทียม’ ซึ่งทุกคนสามารถสร้างที่อยู่อาศัยและขายบ้านได้ แต่ความเป็นเจ้าของที่ดินจะยังอยู่กับเมือง พลเมืองจะจ่ายค่าเช่าสําหรับการสร้างที่อยู่อาศัย เรียกว่าเป็นเจ้าของร่วมกัน เมื่อมูลค่าของที่ดินเพิ่มขึ้น เงินที่ได้จากการเช่าใช้ประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นจะถูกนําไปลงทุนให้เกิดผลกําไรงอกเงย และนํามาใช้สนับสนุนการเข้าถึงการรักษาพยาบาล การศึกษา และการคมนาคมขนส่งอย่างทั่วถึง โดยไม่จําเป็นต้องคํานึงถึงรายได้เป็นหลัก เมืองนี้ยังจะอนุญาตให้ผู้อยู่อาศัยสามารถมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจต่าง ๆ และการใช้งบประมาณของเมืองอีกด้วย

Telosa ยังมาพร้อมแนวคิดที่เรียกว่า ‘เมือง 15 นาที’ (15-Minute City) เพื่อช่วยให้ผู้คนในเมืองสามารถเข้าถึงสถานที่ทํางาน โรงเรียน และสิ่งอํานวยความสะดวกต่าง ๆ ได้ภายในเวลา 15 นาที 

สําหรับบริษัทที่ได้รับมอบหมายให้ออกแบบเมืองใหม่แห่งนี้ คือ บริษัทสถาปนิกสัญชาติเดนมาร์ก Bjarke Ingels Group (BIG) ของ Bjarke Ingels สถาปนิกหนุ่มชื่อดังชาวเดนมาร์ก ที่มีผลงานการออกแบบสํานักงานใหญ่ของ ‘แอปเปิล’ และ ‘กูเกิล’ 

ภารกิจของ BIG จะครอบคลุมการออกแบบสถานที่ต่าง ๆ ภายในเมือง อาทิ โรงแรม สปา สนามกีฬา หอศิลป์ ไฮไลต์ที่เป็นจุดศูนย์กลางของเมือง คือ Equitism Tower ซึ่งเป็นตึกระฟ้ารูปทรงกรวยที่เป็นเหมือนประภาคารของเมือง รวมถึงออกแบบให้จัดเก็บน้ำในพื้นที่สูง มีฟาร์มปลูกพืชระบบรากแขวน (Aeroponic) และหลังคาโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตพลังงานและแจกจ่ายให้ผู้คนในเมือง


กางแผนที่เตรียมปักหมุด

ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกสถานที่ตั้งของ Telosa แต่ทําเลเบื้องต้นน่าจะเป็นพื้นที่ทะเลทรายที่มีราคาที่ดินไม่สูงมาก ซึ่งความเป็นไปได้มีทั้งรัฐยูทาห์ ไอดาโฮ เนวาดา แอริโซนา เทกซัส และภูมิภาคแอปพาเลเซียทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐ

ด้านรัฐเนวาดาที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐริเริ่มย่างก้าวเล็ก ๆ ในการมุ่งสู่เมืองอัจฉริยะที่มีเป้าหมายชัดเจน โดยเสนอร่างกฎหมายอนุญาตให้บริษัทเทคโนโลยีสร้างโซนนวัตกรรม ซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นสนับสนุนเรื่องที่อยู่อาศัย โรงเรียน ร้านค้าปลีก การขนส่ง การผลิตไฟฟ้า สถานพยาบาล รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีใหม่ ๆ

ความพยายามสร้างเมืองใหม่ไม่ใช่เรื่องใหม่ มหาเศรษฐีหลายคนก็เดินตามแนวทางที่จะสร้างเมืองในอุดมคติแบบที่ตัวเองเชื่อ ไม่ว่าจะเป็น Bill Gates เจ้าพ่อไมโครซอฟท์ ที่มีแผนสร้าง Smart City ในฟินิกซ์ และ Jeffrey Berns มหาเศรษฐีนักลงทุน Cryptocurrency ก็มีแผนจะสร้าง Smart City ในรัฐเนวาดา 

Telosa จึงเป็นอีกหนึ่งจิกซอว์ของการสร้างเมืองใหม่ที่มุ่งเน้นให้พลเมืองมีความเป็นอยู่ที่ดี และมีการพัฒนาเมืองแบบไม่ทําร้ายโลกจนเกินไป