ห้องระบายอารมณ์
พื้นที่โปรดในบ้าน
แห่งปี 2565

หนึ่งในคำค้นยอดฮิตใน Pinterest เมื่อปี 2564 คือคำว่า ‘Emotional Escape Rooms’ ด้วยการจัดพื้นที่มุมหนึ่งในบ้านแล้วใส่หน้าที่ให้กับพื้นที่นั้น ๆ ว่า ‘ห้องเพื่อระบาย – ปลดเปลื้อง – ปรับสมดุลอารมณ์’ 

Pinterest วิเคราะห์ไว้ว่า การที่ห้องระบายอารมณ์กลายเป็นคำค้นยอดฮิตของคนแต่งบ้าน เป็นเพราะความเครียดที่คนยุคนี้ต้องเผชิญ ทั้งโลกร้อน โรคระบาด ปัญหาเศรษฐกิจ การใช้ชีวิต New Normal ไปจนถึงดราม่าในโลกโซเชียล นำไปสู่การแสวงหาทางออกว่าเราจะใช้ชีวิตอย่างไรให้สุขกายและสบายใจ ไม่ล้มป่วยหรือคลุ้มคลั่งไปเสียก่อน และทางออกที่ว่านั้นก็คือการสร้างห้องระบายอารมณ์นั่นเอง

พื้นที่แห่งความรู้สึก  

คำค้นยอดนิยมที่ Pinterest รวบรวมมาตลอดปี 2564 ซึ่งจะยังเป็นที่นิยมต่อเนื่องในปี 2565 อาทิ ห้องระบายความโกรธมีการค้นหาเพิ่มขึ้น 150% ห้องดนตรีเพิ่มขึ้น 2% ห้องหินเสริมพลังเพิ่มขึ้น 8% ห้องสมุดเพิ่มขึ้น 12% ห้องนวดเพิ่มขึ้น 190% และห้องทำสมาธิเพิ่มขึ้นมากที่สุดถึง 430%

ส่วนพื้นที่ในบ้านที่ผู้คนอยากมีมากที่สุดระดับ 100% ก็คือห้องระบายความโกรธ ห้องนวดและห้องทำสมาธิ สะท้อนถึงความต้องการการผ่อนคลายทางกายและโหยหาความสงบในใจเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ  

ห้องที่คุณไม่รู้มาก่อนว่าต้องการที่สุดในบ้าน

ค้นลึกเข้าไปถึงความต้องการในใจว่า คุณอยากจะระบายหรือโอบรับความรู้สึกแบบไหน แล้วความรู้สึกนั้นเองคือคำตอบว่า ห้องระบายอารมณ์ของคุณจะมีรูปร่างหน้าตาและตกแต่งอย่างไร เช่น 

• ห้องระบายความโกรธ : ไม่ว่าจะทะเลาะกับเจ้านาย แฟนขัดใจ โดนเพื่อนอันเฟรนด์ หรือเรื่องใด ๆ ก็ตามที่ทำให้คุณรู้สึกร้อนรุ่มในอก สิ่งที่คุณต้องการคือผนังห้องโล่ง ๆ ด้านหนึ่งที่สามารถเลอะเปรอะเปื้อนสีได้ หรือว่าติดกระดานดำหรือเป้าปาลูกดอกได้ หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องการแค่พื้นที่โล่งเล็กน้อยไว้ปูเบาะได้ ไม่ต้องถึงกับทำเป็นห้องปาจานชามให้แตกละเอียดเหมือน Rage Room หรือ Anger Room ที่นิยมในญี่ปุ่น เมื่อใดที่หัวร้อนก็ให้ไปละเลงสีใส่ผนัง เขียนคำอะไรก็ได้บนกระดานดำ ปาเป้าหรือฟาดหมอนในห้องนี้  
• ห้องสมุด : เทรนด์ของการประชุม Zoom ในยุคนี้ต้องมีฉากหลังเป็นชั้นหนังสือ ไม่ว่าคุณจะอ่านจริงหรือไม่ก็ตาม แต่สำหรับใครที่เป็นหนอนหนังสือตัวจริง พื้นที่ให้ได้เอนเอกเขนก มีเก้าอี้ปรับเอนได้ มีโต๊ะวางเท้าและโคมไฟเท่านี้ ก็สร้างโซนอ่านหนังสือสุดสบายได้แล้ว
• ห้องหินเสริมพลัง : ยุคที่ผู้คนต้องการพลังธรรมชาติมาเสริมพลังในการดำเนินชีวิต ห้องคริสตัลหรือหินแร่สีสันที่มีคุณสมบัติต่าง ๆ จึงเป็นโซนใหม่ในบ้าน อาทิ ควอตซ์ใสนำความสุข โรสควอตซ์นำความรัก อเมทิสต์สีม่วงดูดความทุกข์ เป็นต้น โดยจัดวางหินแร่ต่าง ๆ ไว้ในมุมหนึ่งที่มองเห็นได้ง่าย เนื่องจากความสวยงามของหินยังเพิ่มความสวยงามให้บ้านได้อีกทางหนึ่งด้วย

สร้างห้องแห่งอารมณ์ในบ้าน

ไม่จำเป็นต้องต่อเติมห้องใหม่หรือย้ายเฟอร์นิเจอร์ให้วุ่นวาย การสร้างห้องระบายอารมณ์ในบ้านทำได้ง่ายดายกว่านั้น ขอแค่พื้นที่มุมหนึ่งที่ไม่ว่าจะเล็กแคบหรือโปร่งกว้างในบ้านก็เป็นอันใช้ได้ 

• ห้องนอกบ้าน : ห้องระบายอารมณ์ไม่จำเป็นต้องอยู่ในบ้าน ใช้ประโยชน์พื้นที่ในสวน ระเบียงหรือหลังบ้านให้คุ้มค่ามากขึ้นก็ได้เช่นกัน
• พื้นที่ชั่วคราว : คุณสามารถย้ายห้องนี้ไปอยู่ในพื้นที่ส่วนไหนของบ้านตามชอบ หรือแล้วแต่อารมณ์ในวันนั้น ๆ สมชื่อห้องระบายอารมณ์  ไม่มีการจำกัดว่าต้องเป็นมุมนี้เท่านั้น 
• ตกแต่งตามจำเป็น : เพราะเป็นพื้นที่ชั่วคราวที่พร้อมขยับย้ายได้ตลอดเวลา และด้วยของตกแต่งเพียงไม่กี่ชิ้นก็ช่วยสร้างบรรยากาศและประโยชน์ใช้สอยใหม่ให้กับพื้นที่นั้น ๆ ได้แล้ว

Meik Wiking ผู้เขียนหนังสือขายดี The Little Book of Hygge หรือปรัชญาความสุขแบบชาวเดนมาร์ก (รวมไปถึงชาวนอร์เวย์ด้วย) กล่าวว่า ชาวเดนมาร์กมีพื้นที่หนึ่งเหมือนกันแทบทุกบ้าน ก็คือ Nook มุม ซอกหรือแอ่งเว้าใต้บันได ในห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น ซึ่งปรับใช้เป็นห้องระบายอารมณ์ได้ง่าย ๆ ถ้าไม่มีก็มองหาพื้นที่ข้างหน้าต่างก็ได้ เอาไว้ทำเป็นห้องได้ทุกห้องที่ต้องการ ตั้งแต่ห้องสมุด ห้องนวด ห้องดนตรีหรือห้องนั่งเหม่อเฉย ๆ ก็ได้ “ถ้าจะให้ดี หาโคมไฟที่มีอุณหภูมิแสงที่ 1,800 K เพราะเป็นแสงแบบเดียวกับเปลวไฟ” เพื่อให้ได้อารมณ์เหมือนก่อกองไฟตอนไปแคมปิ้ง

ส่วน Jasmine Hemsley ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและสุขภาพในลอนดอน สร้างห้องปลดปล่อยอารมณ์ในบ้านอย่างง่าย ๆ บนโต๊ะตัวเดิมตัวเดียวกับที่ใช้ทำงานนั่นแหละ เมื่อไรก็ตามที่เธอทำงานเสร็จ เธอจะปิดแล็ปท็อปแล้วจุดเทียนหรือธูปหอม แล้วเปิดเพลงจังหวะผ่อนคลาย เพื่อเป็นสัญญาณบอกร่างกายและใจว่า ถึงเวลาปิดสวิตช์ทำงานได้แล้ว ซึ่งการใช้แสง สี เสียงเหล่านี้ช่วยปลดเปลื้องความล้าทางกายใจได้เป็นอย่างดี

แล้วคุณล่ะ ต้องการห้องระบายอารมณ์แบบไหนในเวลานี้

Cover Illustration โดย Anothernum

Share